ปัจจัยอะไรบ้างที่องค์กรใช้พิจารณาโบนัสประจำปี! และพนักงานควรจัดการความคาดหวังอย่างไรไม่ให้กดดันเกินไป?

Blog Image
  • Admin
  • 27 NOVEMBER 2025

ปัจจัยอะไรบ้างที่องค์กรใช้พิจารณาโบนัสประจำปี! และพนักงานควรจัดการความคาดหวังอย่างไรไม่ให้กดดันเกินไป?

โบนัสประจำปีคืออะไร และทำไมแต่ละบริษัทให้ไม่เท่ากัน?
โบนัสประจำปีคือ “รางวัลตอบแทน” ที่องค์กรมอบให้พนักงานตามผลประกอบการและผลงานตลอดทั้งปี
ไม่ใช่รายได้ที่การันตีเหมือนเงินเดือน จึงมีโอกาสที่:
- บางปีได้มาก
- บางปีได้พอดี
- และบางปีก็อาจไม่ได้เลย
ที่มาของความต่างระหว่างบริษัท เกิดจากหลายปัจจัย เช่น:
- สภาพเศรษฐกิจ
- สถานการณ์ธุรกิจ
- ต้นทุนที่บริษัทต้องบริหาร
- กลยุทธ์การลงทุนในปีนั้น
ดังนั้น แม้จะอยู่ในสายงานเดียวกัน แต่โบนัสที่ได้ก็อาจต่างกันมากค่ะ

7 ปัจจัยหลักที่องค์กรใช้พิจารณา ‘โบนัสประจำปี’
ข้อมูลนี้เป็นภาพรวมที่ HR หลายบริษัทใช้จริง
1) ผลประกอบการโดยรวมของบริษัท
เป็นปัจจัยหลักที่สุด
หากบริษัทมีกำไรดี รายได้เติบโต ยอดขายแข็งแรง โอกาสให้โบนัสก็สูงขึ้น
ในทางกลับกัน หากปีนั้นเศรษฐกิจซบเซา ลูกค้าลดลง หรืออุตสาหกรรมผันผวน
โบนัสอาจถูกลดลงหรือถูก “ตรึงไว้” เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่ออย่างปลอดภัย
นี่คือปัจจัยที่พนักงานไม่สามารถควบคุมได้
2) ความสามารถในการจ่ายขององค์กร
ถึงแม้บริษัทจะมีกำไร แต่ก็อาจมีแผนลงทุน เช่น:
- ขยายกิจการ
- ซื้อเครื่องจักร
- เปิดสาขาใหม่
- ลงทุนเทคโนโลยี
- กันงบฉุกเฉิน
เมื่องบถูกจัดสรรไปในหลายด้าน โบนัสจึงอาจไม่ได้เพิ่มขึ้นเท่าที่คาดหวัง
3) ผลการประเมินผลงานรายบุคคล (Performance Appraisal)
ปัจจัยที่พนักงานสามารถควบคุมได้โดยตรง ทุกบริษัทจะใช้คะแนนประเมินมาคำนวณโบนัสในระดับบุคคล เช่น:
- บรรลุเป้าหมายงานหรือไม่
- คุณภาพงานดีต่อเนื่องหรือเปล่า
- ส่งงานตรงเวลา
- แก้ปัญหาได้ดี
- มีผลงานโดดเด่นในโปรเจกต์ต่าง ๆ
ยิ่งผลการประเมินดี น้ำหนักโบนัสก็ยิ่งมาก
4) พฤติกรรมการทำงาน (Working Behavior)
สมัยนี้องค์กรจะประเมินทั้ง Performance และ Behavior
ตัวอย่างพฤติกรรมที่มีผลต่อโบนัสได้แก่:
- การทำงานเป็นทีม
- การสื่อสาร
- ความรับผิดชอบ
- วินัยในการทำงาน
- การรักษาคุณภาพงาน
- ทัศนคติและความร่วมมือ
พนักงานที่ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี มีวินัย และเป็นพลังบวกในทีม มักถูกพิจารณาในแง่บวกเวลาคิดโบนัส
5) อายุงาน (Length of Service)
สำหรับพนักงานที่ทำงานไม่ครบปี บริษัทมักใช้เกณฑ์ คิดตามสัดส่วนเวลา (Pro-rate) เพื่อความยุติธรรมกับพนักงานทุกคน กรณีย้ายตำแหน่งหรือย้ายฝ่ายภายในปี ก็อาจใช้หลักการเดียวกันค่ะ
6) ตำแหน่งงานและระดับความรับผิดชอบ
พนักงานในระดับหัวหน้า ผู้จัดการ หรือผู้บริหาร จะมีสัดส่วนโบนัสมากกว่าระดับพนักงานทั่วไป เนื่องจากรับผิดชอบผลลัพธ์ของทีมทั้งทีม และมีความเสี่ยงในการตัดสินใจที่สูงกว่า
7) นโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กร
หลายบริษัทมีเกณฑ์ด้านวินัยหรือข้อกำหนดที่อาจส่งผลต่อโบนัส เช่น:
- การขาดงานหรือมาสายบ่อย
- การลาประเภทต่าง ๆ
- การได้รับใบเตือน
- การละเมิดกฎบริษัท
- ค่าคะแนน attendance ที่ต่ำ
ปัจจัยเหล่านี้แม้ดูเป็นเรื่องเล็ก แต่สะสมตลอดปีและมีผลต่อการให้โบนัสจริงค่ะ

พนักงานควรบริหารความคาดหวังอย่างไร…เพื่อไม่ให้กดดันเกินไป?
หัวข้อนี้อยากเน้นเป็นพิเศษ เพราะเรื่องโบนัสมักกระทบสภาพจิตใจพนักงานโดยตรง การตั้งความคาดหวังที่เหมาะสมช่วยลดความเครียดได้มาก 
1) มองโบนัสเป็น “รางวัล” ไม่ใช่ “รายได้ประจำ”
การเปลี่ยนมุมมองเล็ก ๆ ช่วยให้ความคาดหวังเบาลงได้เยอะ เพราะโบนัสมีความไม่แน่นอนเสมอ แต่เงินเดือนคือสิ่งที่เราควบคุมและวางแผนชีวิตได้มากกว่า
2) ขอ feedback กับหัวหน้าอย่างสม่ำเสมอ
ไม่ต้องรอสิ้นปีค่อยถาม ควรคุยตั้งแต่กลางปีว่า:
- งานที่ทำอยู่ดีหรือไม่
- จุดที่ควรปรับปรุง
- ปีนี้องค์กรมีเกณฑ์อะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง
การคุยแบบนี้ช่วยให้เราประเมินตนเองได้แม่นยำขึ้น และไม่คาดหวังเกินจริงในช่วงปลายปี
3) เก็บผลงานของตนเองตลอดปี
ง่ายที่สุดคือเก็บเป็นไฟล์สั้น ๆ เช่น:
- ผลงานเด่น
- คำชมจากลูกค้า
- ผลลัพธ์ที่วัดได้
- โปรเจกต์ที่เราทำสำเร็จ
- ปัญหาที่แก้ไขได้ดี
สิ่งเหล่านี้ช่วยให้การประเมินเป็นธรรมมากขึ้น และเป็นหลักฐานชัดเจนว่าเราทำอะไรให้ทีมบ้าง
4) วางแผนการเงินโดยไม่ผูกชีวิตกับโบนัส
ไม่ควรใช้โบนัสเป็นฐานในการตัดสินใจเรื่องใหญ่ เช่น:
- ซื้อรถ
- ซื้อโทรศัพท์ใหม่
- ใช้ปิดหนี้จำนวนมาก
- วางแผนท่องเที่ยวราคาแพง
ให้มองโบนัสเป็น “เงินพิเศษ”ถ้าได้ก็ถือว่าเป็นกำไร ถ้าไม่ได้ ชีวิตจะได้ไม่สะดุด
5) หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบกับเพื่อนร่วมงาน
เพราะแต่ละคนมี:
- หน้าที่
- ผลงาน
- หัวหน้าที่ประเมิน
- อายุงาน
- งบประมาณแผนก
แตกต่างกันทั้งหมด การเปรียบเทียบจึงทำให้เกิดความกังวลหรือความรู้สึกไม่ยุติธรรมโดยไม่จำเป็น
6) มองภาพรวมมากกว่าจำนวนเงิน
บางปีโบนัสน้อย แต่บริษัทมั่นคง
บางปีได้มาก เพราะองค์กรเติบโต
บางปีงบน้อย แต่บรรยากาศการทำงานดี

ให้น้ำหนักกับทุกมิติ ไม่ใช่ตัวเลขก้อนเดียว
จะช่วยให้เราเข้าใจสถานการณ์ขององค์กรได้ลึกขึ้นค่ะ

สรุปแบบเข้าใจง่าย
โบนัสประจำปี เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งผลประกอบการของบริษัท พฤติกรรมการทำงาน
ผลการประเมินรายบุคคล ตำแหน่ง อายุงาน และนโยบายภายใน
พนักงานจึงควรตั้งความคาดหวังอย่างมีสติ
และมองโบนัสเป็นรางวัล ไม่ใช่รายได้ที่การันตี
สิ่งที่พนักงานควรโฟกัสที่สุดคือ:
- ทำงานให้ดีและสม่ำเสมอ
- พัฒนาทักษะ
- สื่อสารกับหัวหน้า
- วางแผนการเงินให้รอบคอบ
- รักษาสมดุลทั้งใจและงาน
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ความสามารถและความตั้งใจของเรา คือสิ่งที่อยู่กับเราไปในระยะยาวมากกว่าโบนัสในปีใดปีหนึ่งเสมอ