
- Admin
- 11 AUGUST 2025
5 เคล็ด(ไม่)ลับ ทำยังไงให้พนักงานเปิดใจอยากคุยกับ HR?
แต่ก็ต้องยอมรับว่า… ไม่ใช่พนักงานทุกคนที่จะกล้าเปิดใจคุยกับ HR ตรง ๆ หลายคนรู้สึกเกรงใจ กลัวโดนตัดสิน หรือกลัวว่าข้อมูลจะไม่ถูกเก็บเป็นความลับ
แล้ว HR จะทำยังไงให้พนักงานรู้สึกว่า “ฉันไว้ใจคุณได้” และ “ฉันอยากเล่าให้คุณฟัง”?
วันนี้บุคคล.com จะพาทุกท่านไปดู 5 เคล็ด(ไม่)ลับ ที่จะช่วยให้พนักงานเปิดใจและอยากคุยกับ HR มากขึ้น พร้อมตัวอย่างและเทคนิคที่เอาไปใช้ได้จริง
เคล็ด(ไม่)ลับที่ 1: สร้างภาพลักษณ์ HR ให้เข้าถึงง่าย
“HR ไม่ใช่แค่คนจัดเอกสาร แต่คือคนที่พนักงานรู้สึกว่าคุยด้วยแล้วสบายใจ”
ทำไมถึงสำคัญ?
ภาพลักษณ์แรกของ HR จะเป็นตัวกำหนดว่าพนักงานอยากเข้ามาคุยหรือไม่ ถ้า HR ดูเป็นคนดุ พูดจาห้วน หรือดูเหมือน “ผู้ตรวจสอบ” มากเกินไป พนักงานก็จะรู้สึกเกร็งทันที
วิธีสร้างภาพลักษณ์ให้เข้าถึงง่าย
- ใช้ภาษาที่เป็นกันเอง (แต่ยังคงความสุภาพ) เช่น การเรียกชื่อพนักงานแทนการใช้ตำแหน่ง
- เปิดพื้นที่นอกโต๊ะทำงาน เช่น มุมกาแฟ หรือมุมพักผ่อน เพื่อให้การคุยเกิดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ
- ยิ้มและสบตา ให้สัญญาณทางภาษากายว่า “พร้อมรับฟัง”
- แต่งตัวให้ดูเป็นมิตร สีเสื้อผ้าที่อ่อนลงช่วยลดความรู้สึกห่างเหินได้
เคล็ด(ไม่)ลับที่ 2: สื่อสารแบบเปิดใจและโปร่งใส
“ความโปร่งใสคือรากฐานของความไว้ใจ”
ทำไมถึงสำคัญ?
พนักงานมักลังเลที่จะเล่าเรื่องส่วนตัวหรือปัญหาในงาน เพราะกลัวว่าข้อมูลจะถูกนำไปใช้ในทางเสียหาย HR จึงต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าข้อมูลที่แชร์จะถูกเก็บเป็นความลับ และใช้เพื่อช่วยแก้ปัญหาเท่านั้น
เทคนิคการสื่อสารให้โปร่งใส
- แจ้งชัดเจนว่าข้อมูลจะถูกเก็บเป็นความลับ
- อธิบายขั้นตอนการแก้ปัญหา ให้พนักงานรู้ว่าจะเกิดอะไรต่อไปหลังจากเล่า
- ให้ Feedback กลับเสมอ เช่น “เรื่องที่คุณแจ้ง เราได้ประสานกับหัวหน้างานแล้ว และกำลังหาทางแก้ไข”
- ใช้ช่องทางที่เป็นทางเลือก เช่น Email ส่วนตัว, แชทส่วนตัว หรือกล่องรับฟังความคิดเห็น
เคล็ด(ไม่)ลับที่ 3: ฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening)
“การฟัง คือของขวัญที่ HR มอบให้พนักงานได้ทุกวัน”
ทำไมถึงสำคัญ?
บางครั้งพนักงานไม่ได้ต้องการคำตอบทันที แต่ต้องการให้มีคน “ฟัง” และ “เข้าใจ” ก่อน การฟังแบบตั้งใจจะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าความคิดและความรู้สึกของพวกเขามีค่า
วิธีฟังอย่างตั้งใจ
- หยุดทำอย่างอื่นขณะฟัง ปิดหน้าจอคอม หรือวางโทรศัพท์ลง
- ใช้ภาษากายประกอบ เช่น พยักหน้า สบตา เอียงตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย
- สะท้อนความเข้าใจ ด้วยประโยคเช่น “ถ้าฉันเข้าใจถูก คุณรู้สึกว่า…”
- อย่าขัดจังหวะ ปล่อยให้พนักงานเล่าให้จบก่อน
เคล็ด(ไม่)ลับที่ 4: แก้ปัญหาอย่างจริงจังและรวดเร็ว
“ถ้าพนักงานรู้ว่า HR แก้ปัญหาได้จริง เขาจะกลับมาคุยอีก”
ทำไมถึงสำคัญ?
การที่พนักงานเปิดใจคุยแล้วแต่ HR ไม่ได้ทำอะไร หรือปล่อยให้เรื่องเงียบหาย จะทำให้ความเชื่อใจลดลงทันที
วิธีแสดงให้เห็นว่า HR แก้ปัญหาได้จริง
- ตั้งเป้าระยะเวลาในการตอบกลับ เช่น ภายใน 48 ชั่วโมง
- อัปเดตความคืบหน้า แม้จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ก็ตาม
- ทำงานร่วมกับหัวหน้างาน เพื่อแก้ปัญหาเชิงระบบ ไม่ใช่แค่รายบุคคล
- ติดตามผล หลังปัญหาถูกแก้ เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานพอใจ
เคล็ด(ไม่)ลับที่ 5: ลงไปอยู่ในพื้นที่ของพนักงาน
“การเดินเข้าไปหาพนักงาน คือการบอกว่าเราพร้อมอยู่เคียงข้าง”
ทำไมถึงสำคัญ?
ถ้า HR เอาแต่รออยู่ในห้องทำงาน พนักงานอาจมองว่า HR ห่างไกลและไม่เข้าใจชีวิตจริงของพวกเขา การลงพื้นที่จะช่วยสร้างภาพว่า HR คือส่วนหนึ่งของทีม
วิธีทำให้ HR ใกล้ชิดพนักงานมากขึ้น
- เดินเยี่ยมหน้างานเป็นประจำ พูดคุยเล็ก ๆ น้อย ๆ
- ร่วมกิจกรรมของทีม เช่น ทานข้าวกลางวัน, เวิร์กช็อป หรือกิจกรรม CSR
- ใช้ช่องทางโซเชียลภายในองค์กร โพสต์สาระหรือเรื่องราวเป็นกันเอง
- ถามไถ่โดยไม่ใช่เรื่องงานอย่างเดียว เช่น สุขภาพ, ครอบครัว หรือความสนใจส่วนตัว
ตัวอย่างการนำไปใช้ในองค์กรจริง
สมมติว่าบริษัทแห่งหนึ่งเคยมีปัญหาที่พนักงานไม่กล้าแจ้งเรื่องความขัดแย้งในทีม เพราะกลัวถูกมองว่า “ฟ้อง” HR จึงเริ่มจากการ ลงพื้นที่คุยกับพนักงานอย่างไม่เป็นทางการ พร้อมปรับวิธีสื่อสารให้เป็นกันเองมากขึ้น
ผลที่ได้คือพนักงานเริ่มเข้ามาพูดคุยเรื่องเล็ก ๆ ก่อน จนในที่สุดก็กล้าพูดเรื่องที่ซับซ้อนมากขึ้น และ HR ก็สามารถแก้ปัญหาก่อนที่จะบานปลาย
สรุป
การทำให้พนักงานเปิดใจคุยกับ HR ไม่ได้เกิดขึ้นจากการประกาศนโยบายอย่างเดียว แต่ต้องใช้การสร้างความไว้วางใจทีละขั้นผ่าน
1. ภาพลักษณ์ที่เข้าถึงง่าย
2. การสื่อสารโปร่งใส
3. การฟังอย่างตั้งใจ
4. การแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
5. การอยู่ใกล้ชิดพนักงาน
เมื่อ HR ทำสิ่งเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง พนักงานจะรู้สึกว่า HR ไม่ใช่เพียง “ฝ่ายบุคคล” แต่คือ “เพื่อนร่วมงานที่พร้อมอยู่ข้างกัน”