ของเสียรีไซเคิลได้ = คิดเป็นต้นทุนลบได้หรือไม่?

Blog Image
  • Admin
  • 06 AUGUST 2025

ของเสียรีไซเคิลได้ = คิดเป็นต้นทุนลบได้หรือไม่?

คำถามคือ ของเสียรีไซเคิลได้สามารถคิดเป็นต้นทุนลบได้จริงหรือไม่? บทความนี้นายช่าง .net จะพาเจาะลึกทั้งในเชิงการผลิต การเงิน และการจัดการต้นทุน เพื่อให้เข้าใจง่ายสำหรับทั้งคนในโรงงานและบุคคลทั่วไป

ทำความเข้าใจก่อน: ของเสียรีไซเคิลได้คืออะไร?
ของเสียรีไซเคิลได้ หมายถึง วัสดุเหลือใช้จากกระบวนการผลิตที่ยังสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้ โดยอาจเป็นการ
- นำกลับมาใช้ซ้ำในกระบวนการผลิต (Reuse)
- นำไปแปรรูปเพื่อนำไปขายต่อ (Recycle for resale)
- ส่งต่อให้โรงงานอื่นใช้เป็นวัตถุดิบ
ตัวอย่างของเสียรีไซเคิลได้ในโรงงานอุตสาหกรรม
- เศษโลหะจากการกลึงหรือกัด CNC
- เศษพลาสติกที่สามารถหลอมขึ้นรูปใหม่
- น้ำมันตัดกลึงที่ผ่านการกรอง
- เศษไม้จากการผลิตเฟอร์นิเจอร์
- กระดาษหรือกล่องบรรจุภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่

ของเสียรีไซเคิลได้กับมุมมองทางบัญชีต้นทุน
ปกติแล้ว ของเสีย (Scrap) จะถูกจัดอยู่ในหมวด ต้นทุนการผลิต เนื่องจากมันเป็นส่วนหนึ่งของวัสดุที่ซื้อมาเพื่อใช้ผลิตสินค้า แต่เมื่อของเสียมีมูลค่ารีไซเคิลได้ มันสามารถถูกมองว่าเป็น “รายได้แฝง”
แนวทางการบันทึกต้นทุนในเชิงบัญชี
1. หักจากต้นทุนการผลิตโดยตรง
- หากโรงงานขายเศษวัสดุได้ เงินที่ได้จะถูกนำมาลดต้นทุนการผลิต
- ตัวอย่าง: ซื้อวัตถุดิบเหล็ก 100,000 บาท ได้เศษเหล็กขาย 5,000 บาท → ต้นทุนสุทธิคือ 95,000 บาท
2. บันทึกเป็นรายได้เสริม (Other Income)
- ในบางบริษัท การขายของเสียรีไซเคิลจะถูกบันทึกเป็นรายได้เสริม ไม่ได้ลดต้นทุนโดยตรง
- วิธีนี้จะทำให้ตัวเลขต้นทุนการผลิตไม่เปลี่ยน แต่รายได้รวมจะเพิ่มขึ้น

คิดเป็นต้นทุนลบได้หรือไม่?
ในมุมวิศวกรและฝ่ายผลิต การมองของเสียรีไซเคิลว่าเป็น “ต้นทุนลบ” สามารถทำได้ ในเชิงแนวคิด หากมูลค่าของเสียมีมากพอที่จะหักล้างต้นทุนวัตถุดิบบางส่วน แต่ในเชิงบัญชี ปกติจะใช้วิธี หักต้นทุนสุทธิ มากกว่าที่จะทำให้ตัวเลขติดลบ
อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ หากโรงงานสามารถ
- จัดการของเสียให้มีปริมาณมากพอและคุณภาพสูง
- มีตลาดซื้อขายที่ราคาดี
- มีระบบแยกและเก็บของเสียอย่างเป็นระบบ
มูลค่าของเสียรีไซเคิลอาจถึงจุดที่ สร้างกำไรสุทธิ และในแง่นี้ก็สามารถตีความว่าเป็น “ต้นทุนลบ” ได้เช่นกัน

กรณีศึกษา: ของเสียรีไซเคิลในโรงงานโลหะ
- โรงงาน A ใช้เหล็กกล้าในการผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักร
- ระหว่างการกลึงและกัด จะเกิดเศษเหล็กประมาณ 5% ของน้ำหนักวัตถุดิบ
- เศษเหล็กที่ได้ถูกเก็บรวบรวมและขายให้โรงหล่อในราคา 7 บาท/กิโลกรัม
- มูลค่าเศษเหล็กต่อเดือนเฉลี่ย 200,000 บาท
ผลลัพธ์คือ รายได้จากเศษเหล็กช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบลงอย่างมีนัยสำคัญ และถูกบันทึกเป็นการลดต้นทุนการผลิต

ข้อดีของการรีไซเคิลของเสียในโรงงาน
- ลดต้นทุนสุทธิ จากการขายของเสีย
- ลดปริมาณขยะอุตสาหกรรม ทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร ในด้านความยั่งยืน (Sustainability)
- เพิ่มประสิทธิภาพการใช้วัตถุดิบ (Material Efficiency)

ข้อควรระวังและข้อจำกัด
- ราคาตลาดผันผวน ของเสียบางประเภทมีราคาขึ้นลงตามภาวะตลาด
- ค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าขนส่ง ค่าจัดเก็บ และค่าแยกประเภท
- คุณภาพของเสีย ถ้าปนเปื้อนหรือมีสิ่งเจือปนมาก ราคาจะตก

สรุป: ต้นทุนลบคือแนวคิดที่ทำได้ในทางปฏิบัติ แต่ต้องจัดการดี
ของเสียรีไซเคิลสามารถคิดเป็น “ต้นทุนลบ” ได้ในความหมายว่า มันช่วยลดค่าใช้จ่ายรวมของการผลิต แม้ในเชิงบัญชีจะไม่บันทึกเป็นตัวเลขติดลบตรง ๆ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ ต้นทุนสุทธิถูกลดลง และอาจสร้างรายได้เพิ่มเติม

การจัดการของเสียให้มีประสิทธิภาพจึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่โรงงานสมัยใหม่ให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยเรื่องค่าใช้จ่าย ยังตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของธุรกิจ